Last updated: 21 ส.ค. 2563 | 9341 จำนวนผู้เข้าชม |
อันดับแรกขออธิบายรูปแบบการเที่ยวอุทยานในจีนกันก่อน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติส่วนใหญ่ของจีนมักจะตั้งอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองใหญ่ เช่น เทือกเขาสูง ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง ที่ราบสูง ทะเลทราย ฯลฯ ที่สำคัญคือมักจะได้รับการอนุรักษ์และดูแลในรูปแบบของอุทยาน เพื่อให้หน่วยงานส่วนกลางสามารถดูแลรักษาและจัดการได้อย่างเป็นระบบ อุทยานต่าง ๆ ของจีนจึงมีรูปแบบคล้ายคลึงกันทั้งประเทศ
โดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อบัตรผ่านประตู (เหมินเพี่ยว 门票) ตรงทางเข้าหลักเพื่อเข้าเขตอุทยานก่อน จากนั้นก็ขึ้นยานพาหนะไปลงตามจุดไฮไลต์ต่าง ๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นมินิบัส รถแบตเตอรี่ หรือกระเช้า ซึ่งมีค่าตั๋วแยกต่างหาก) ถ้าอุทยานไม่ได้มีขนาดใหญ่มากหรือมีไฮไลต์ไม่กี่แห่ง บัตรผ่านประตูมักจะครอบคลุมจุดเที่ยวทั้งหมด
แต่ในเคสที่อุทยานกินพื้นที่กว้างใหญ่หลายพันตารางกิโลเมตร ไฮไลต์แต่ละจุดอาจอยู่ห่างกันเป็นชั่วโมงชนิดที่ใช้เวลาหลายวันอาจยังเที่ยวได้ไม่ครบ เราก็อาจมีออปชั่นว่าจะซื้อตั๋วแยกหรือตั๋วคอมโบตั้งแต่หน้าประตู ตั๋วประเภทนี้ก็มักจะเป็นตั๋ว 3 วันหรือ 7 วัน และเราก็เลือกได้ว่าจะซื้อตั๋วเข้าชมเพียงบางจุด หรืออาจซื้อตั๋วแยกไปก่อนแล้วไปซื้อเพิ่มหน้างานก็ได้ แต่อาจแพงกว่าตั๋วคอมโบขึ้นมาอีกนิด
ย่าติงเองเป็นหนึ่งในอุทยานที่พื้นที่กว้างใหญ่มาก ๆ จากทางเข้าถึงจุดไฮไลต์ต้องนั่งรถบัสราว 50 นาที แถมยังค้างคืนภายในอุทยานไม่ได้ นักท่องเที่ยวต้องนั่งรถเข้าออกอุทยานวันต่อวัน ดังนั้น หากจะเก็บไฮไลต์หลัก ๆ ภายในย่าติงให้ครบ ก็ควรใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน
เนื่องจากการเดินทางในเส้นทางนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการ AMS อีกทั้งยังต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางไกลหลายกิโลเมตรบนพื้นที่สูง เราจึงขอแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจจองทริป เพื่อน ๆ ควรประเมินสภาพร่างกายและสุขภาพของตัวเองและผู้ร่วมทริป หากเพื่อน ๆ มีประวัติเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับปอด หัวใจ และความดันโลหิต รวมถึงเป็นไข้หวัดก่อนเดินทาง ไม่แนะนำให้ท่องเที่ยวในเส้นทางนี้นะคะ
ไฮไลต์จุดเที่ยวบนเส้นทางจากเฉิงตูและภายในอุทยานย่าติง (亚丁自然保护区内 | Yading Natural Reserve):
1. จุดชมวิวภูเขาขาจื่อลา (卡子拉山 | Kazila Mountain) และภูเขาทู่เอ๋อร์ (兔儿山 | Tu Er Mountain)
ใครที่เดินทางไปย่าติงด้วยการขับรถจากเสฉวน น่าจะไม่พลาดได้แวะพักที่จุดชมวิวสองแห่งนี้ โดยภูเขาขาจื่อลาตั้งอยู่ ณ ขอบเมืองหลี่ถัง (理塘) บนเส้นทางไปยังเมืองเต้าเฉิงพร้อมความสูง 4,718 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เรียกว่าเป็นการชิมลางความสูงเทียมเมฆก่อนไปเจอของจริงในอุทยานย่าติงค่ะ
ด้วยความสูงขนาดนี้ นักเดินทางจึงมีโอกาสได้เจอหิมะบนเขาขาจื่อลาอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าไปเจอวันที่หิมะไม่ตก ก็จะได้รางวัลเป็นภาพแนวสนเรียงรายบนเทือกเขาน้อยใหญ่ แบบที่เราไปเก็บภาพมาฝากค่ะ
ส่วนภูเขาทู่เอ๋อร์นั้นมีจุดเด่นที่หากมองจากไกล ๆ จะเห็นกองหินและเสาหินสองต้นตั้งตรงดูคล้ายลำตัวและหูกระต่าย จึงเป็นที่มาของชื่อทู่เอ๋อร์ (กระต่ายน้อย) นั่นเอง
2. ทะเลสาบไข่มุก (珍珠海 | Pearl Lake)
มาถึงไฮไลต์ในตัวอุทยานย่าติงกันบ้าง ทะเลสาบไข่มุกตั้งอยู่ที่ความสูง 4,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยเส้นทางราว 3 ก.ม.สู่ทะเลสาบแห่งนี้เป็นเสมือนการอุ่นเครื่องก่อนไปเจอทะเลสาบอีกสองแห่ง ทางเดินเป็นหินปู มีบางส่วนลาดชันและสะพานข้ามธารน้ำเป็นระยะ ไม่นานก็ถึงทะเลสาบไข่มุกค่ะ
หากมาถึงจุดนี้ในวันที่อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าจะเปิดให้เห็นยอดเขาเซียนไหน่รื่อ (仙乃日 | Mount Xiannairi) 1 ใน 3 ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ตัวแทนพระโพธิสัตว์ทั้งสามของย่าติงนั่นเอง
3. ทะเลสาบน้ำนม (牛奶海 | Milk Lake) และทะเลสาบห้าสี ( 五色海| Five-color Lake)
ทะเลสาบน้ำนมกับทะเลสาบห้าสีถือเป็นสุดยอดจุดเช็คอินของบรรดานักเดินทางที่มาพิชิตย่าติงเลยทีเดียว
จุดเด่นของทะเลสาบทั้งสองแห่งคือสีของน้ำ ถ้าอากาศสดใส ทะเลสาบน้ำนมจะเห็นเป็นสีฟ้านวลกระจ่าง ส่วนทะเลสาบห้าสีก็จะเห็นเป็นห้าเฉดสมชื่อนั่นเอง แต่ถ้าเจอฟ้าปิดแบบเรา ก็อาจจะเห็นเป็นทะเลสาบสีมรกตตัดกับเทือกเขาสีเทาไล่เฉด สวยงามไปอีกแบบ
จริง ๆ แล้วไฮไลต์สองแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันนัก แต่ด้วยความสูง 4,600 และ 4,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล รวมกับต้องลัดเลาะไปตามเส้นทางแคบชัน นักเดินทางจึงต้องค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปแต่ละจุด ทำให้เส้นทางนี้อาจกินเวลาถึง 5-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่รับรองว่าสวยงามคุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ
4. เมืองคังติ้ง (康定市 | Kangding City)
เมืองใหญ่สุดในละแวกใกล้เคียงเมืองเต้าเฉิง (稻城 | Daocheng) ซึ่งยังเป็นที่ตั้งของไฮไลต์อีกหลายแห่ง
กลางเมืองคังติ้งมีแม่น้ำเจ๋อตัวะ (折多河 | Zheduo River) ที่เกิดจากการรวมตัวของมวลน้ำบนภูเขาเจ๋อตัวะ (折多山 | Zheduo Mountain) ไหลผ่าน ขณะที่อยู่ในคังติ้ง เราจะได้ยินเสียงกระแสน้ำเชี่ยวกรากดังกึกก้องไปทั่วเมือง เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของคังติ้งเลยทีเดียว
ถ้าเพื่อน ๆ ไม่เหนื่อยจนเกินไป แอบกระซิบให้ออกไปเดินทอดน่องริมแม่น้ำยามค่ำ จะได้ชมบรรยากาศสุดชิวของใจกลางเมืองคังติ้งที่ประดับไฟสว่างไสวไปทั่วบริเวณ
เมืองแห่งนี้ยังเรียกได้ว่าเจริญพอสมควร นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าไปย่าติง หากขาดเหลืออุปกรณ์อะไรก็สามารถหาซื้อที่นี่ได้ หรือใครที่แวะพักคังติ้งหลังจากลุยย่าติงมาแล้ว ที่พักก็จะมีตัวเลือกเยอะกว่าและสะดวกสบายกว่ารอบ ๆ อุทยานพอสมควรเลย
5. วัดถ่ากง (塔公寺 | Lhagang Gompa or Tagong Monastery)
วัดทิเบตถ่ากงตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคังติ้งที่ความสูง 3,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกโอบล้อมด้วยทุ่งหญ้า ได้รับสมญานามว่าเป็น "วัดโจคังน้อย" เนื่องจากประดิษฐานพระพุทธรูปโจโว ศากยมุนี (โจโว รินโปเช) ซึ่งจำลองมาจากพระประธานในวัดโจคังที่กรุงลาซา
ตามตำนานเล่าว่า วัดถ่ากงถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 สมัยราชวงศ์ถัง เป็นจุดหนึ่งในเส้นทางจากฉางอันไปลาซา ที่องค์หญิงเหวินเฉิงแห่งราชวงศ์ถังใช้เสด็จเพื่อไปอภิเษกสมรสกับราชาซงจ้านกานโปแห่งทิเบต ที่นี่จึงเป็นจุดแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวชนเผ่าทิเบตด้วย
นอกจากนี้ ด้านข้างของวัดยังมีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวร้อยล้านที่เราได้แต่กดชัตเตอร์รัว ๆ บอกเลยว่าคุ้มเหนื่อยแน่นอน
6. ทะเลสาบมู่เก๋อฉั้ว (木格措 | Mugecuo Lake)
ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานมู่เก๋อฉั้ว (木格措景区 | Mugecuo Scenic Area) โดยยังคงอยู่ในละแวกเมืองคังติ้ง ชื่อนี้เป็นภาษาทิเบต แปลตรงตัวว่า ทะเลสาบคนป่า (野人海 | Wild Man Lake) ค่ะ
ที่นี่เป็นทะเลสาบในภูมิประเทศแบบอัลไพน์ขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ โดยกินพื้นที่ถึง 3 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว ภายในอุทยานยังสามารถมองเห็นภาพยอดเขาหิมะได้ตลอดทาง และมีจุดชมวิวหินสวยน้ำใส ชวนให้สดชื่นทั้งกายใจจริง ๆ
อันที่จริง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เส้นทางจากเฉิงตูถึงย่าติงยังมีไฮไลต์สวยงามอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนตัวเราแค่ได้เข้ามาเดินในอุทยานก็ฟินมากแล้ว ยิ่งถ้าใครโชคดี ได้มาถึงย่าติงในวันที่ฟ้าเป็นใจพร้อมฉากหลังเป็นใบไม้เปลี่ยนสี ก็เรียกว่าเจอไฮไลต์ไปตลอดเส้นทางเลย แต่เพื่อน ๆ ที่มาเยือนในฤดูอื่นก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะมู้ดแอนด์โทนของภาพในแต่ละสภาพอากาศก็จะแตกต่างกันไป จะได้หาเรื่องกลับมาย่าติงอีกยังไงล่ะ!
Photo credit: ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จากเพื่อนร่วมทริป พี่ฟ้า Skytale, อ๋อง, ก้อง, วิชา, เกมส์, พี่เตี้ย, พลอย, พี่เก๋, พี่โมกข์, แหวน, ปอม, พี่ฟาง, และซอย รวมถึงความสุขสนุกสนานให้จดจำไปอีกนานเลยค่ะ :D
15 ก.ย. 2562
3 ก.ย. 2561